วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

ประวัติความเป็นมา Human Tower

ที่มา
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ตามประเพณี Muixernga ของAlgemesíในวาเลนเซียประเพณีของคาเทโลเนียในคาเทโลเนียเกิดขึ้นในบอล dels วาเลนเซีย (เชียนเต้นรำ) ใน Valls, ใกล้เมืองตาร์ราโกนาเอกสารแรกใน 2255 ในช่วงศตวรรษที่ 18 พวกเขาแพร่กระจายไปยังเมืองและเมืองอื่น ๆ ในพื้นที่รวมถึง Vilafranca del Penedèsและ Tarragona แม้ว่ามันจะไม่ได้จนกว่า 50 ปีที่ผ่านมาว่าการฝึกอบรมของอาคาร castells เริ่มกระจายไปทั่วส่วนที่เหลือของคาตาโลเนีย ความสนใจใน castells เริ่มเติบโตในปี 1960 และ 1970 ในปี 1980 การรวมตัวของสตรีในระเบียบวินัยชาย - แต่เพียงผู้เดียวก่อนนำในèpoca d'or (ยุคทอง) ของปราสาท การปรากฏตัวของผู้หญิงที่ให้เครดิตกับการอนุญาตให้สร้าง castells เบาและแข็งแรงอนุญาตการก่อสร้างก่อนหน้านี้ของ 9 และ 10 ชั้น -100- ฝันไม่สร้างปราสาท ในขณะที่ในคาตาโลเนีย Ball dels Valencians เริ่มให้ความสำคัญกับลักษณะกายกรรมของอาคารมนุษย์ที่เคยสูงขึ้นกว่าเดิมผู้ที่นับถือศาสนาและเปรียบเทียบเป็นผู้สืบทอดประเพณี: Muixeranga ซึ่งดำเนินการในเมืองวาเลนเซียแห่งAlgemesíและที่อื่น ๆ ในดินแดนวาเลนเซียและคาตาโลเนียซึ่งมักจะเรียกกันว่า moixiganga
In 2015 the Coordinadora de Colles Castelleres de Catalunya hosted 99 groups, including Castellers de Vilafranca and Minyons de Terrassa, who were able to construct the tallest human tower to date, the "4 de 10" (10 levels of people with four in each level).


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ประวัติความเป็นมา Human Tower

วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

"ตวล สเลง" ย้อนรอยคุกที่ไม่มีประตูออก ในกรุงพนมเปญ!

"ตวล สเลง" เป็นชื่อของคุกสมัยที่เขมรแดงครองประเทศ ดั้งเดิมคุกนั้นเป็นโรงเรียนมาก่อน ตวล สเลง มีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า s-21 (Security Office 21) ใช้กักขังและขู่เข็ญคนที่คิดว่าเป็นศัตรู หรือเป็นกบฏต่อประเทศชาติและรัฐบาล ทุกภูมิภาค ทุกระดับชั้น รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ผู้ถูกคุมขังสารภาพผิด และลงท้ายด้วยการฆ่า จุดหมายปลายทางของนักโทษทุกคนในนี้ ทางเดียวที่จะออกไปจากคุกแห่งนี้คือ การสิ้นลมหายใจ แต่กว่าที่จะถึงเวลาได้ออกไปนั้นต้องเผชิญกับการกระทำที่ทารุณ โดยเหล่าบรรดานักโทษจะถูกทรมานด้วยวิธีการต่างๆ นาๆ 
ตวล สเลง ถูกล้อมรอบด้วยสองเท่าของแผ่นเหล็กลูกฟูกและลวดหนามหนาแน่นคุกทรมานนักโทษแห่งนี้มาได้ดัดแปลงมาจากโรงเรียนมัธยม ในด้านหน้าของอาคารทุกหลังเหล่านี้มีตาข่ายของรั้วลวดหนามหนาแน่นซึ่งทำให้ทุกคนซึ่งพยายามที่จะกระโดดลงจากด้านบน ผนังของเรือนจำตรงห้องทรมานเป็นกระจกที่จะติดตั้งเพื่อลดเสียงกรีดร้องของจากนักโทษในระหว่างการทรมาน มีการค้นพบหลุมฝังศพของสิบสี่ศพโดยแนวร่วมแห่งชาติรอดจาก Kampuchea (UFNSK) เมื่อ 7 มกราคม 2522
ส่วนใหญ่ตามร่างกายถูกทรมาน สิบสี่ศพสุดท้ายถูกฆ่าโดย เจ้าหน้าที่ S-21 ก่อนที่พวกเขาหนีไป เสาไม้ในพื้นที่สวนซึ่งครั้งหนึ่งเป็นศูนย์กลางของที่นักเรียนใช้ในการออกกำลังกาย ถูกปรับไปเป็นอุปกรณ์ที่ทรมานต่างๆ โดยจะผูกมือทั้งสองของนักโทษที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขาด้วยเชือกและยกให้คว่ำลงซ้ำ ๆ จนกว่าพวกเขาจะหมดสติไปแล้ว ยามจะจุ่มหัวนักโทษลงในถังที่เต็มไปด้วยน้ำปัสสาวะ เพื่อบังคับให้เหยื่อได้สติ
จำนวนนักโทษที่ถูกขังในคุกตวล สเลง แห่งนี้ พ.ศ. 2518 จำนวน 154 คน ,พ.ศ. 2519 จำนวน 2250 คน , พ.ศ. 2520 จำนวน 2350 คน , พ.ศ. 2521 จำนวน 5765 คน นักโทษตัวเลขเหล่านี้ไม่รวมถึงจำนวนของเด็กที่ถูกฆ่าโดยเขมรแดงซึ่งเป็นที่คาดว่าจะเกิน 20,000 คน ระยะเวลาของการจำคุกอยู่ในช่วง 2-4 เดือน
แต่สำหรับบางคน "นักโทษการเมือง" การทรมานอาจอยู่ระหว่างหกและเจ็ดเดือน ตลอดระยะเวลาดังกล่าวมีชาวกัมพูชาเสียชีวิตมากกว่า 2 ล้านคน จากความอดอยากและการใช้แรงงานหนัก หรือถูกสังหารโหดฐาน ที่เป็นศัตรูของรัฐ บริเวณโดยรอบคือสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่บอกเล่าเรื่องราวอันเจ็บปวดในอดีต เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นระยะเวลาเกือบ 5 ปี ความทรมานของคุกแห่งนี้ถึงได้จบลง จากจำนวนนักโทษที่ถูกนำตัวเข้าไปคุมขังและทรมานในคุก มีเพียง 3 รายเท่านั้นที่รอดชีวิตออกมา โดยหนึ่งในนั้นคือผู้ที่ถ่ายทอดชีวิตความทรมานให้ได้ทราบกัน
สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เรือนจำตวล สเลง ในกรุงพนมเปญ ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ส่วนหนึ่งได้รับการแปรสภาพให้เป็นพิพิธภัณฑ์ "สงคราม" สร้างบาดแผล ทิ้งร่องรอยความเจ็บปวดทั้งทางกายและจิตใจแก่มวลมนุษยชาติ ในหลายๆ สงครามที่ผ่านมา จึงเป็นบทเรียนที่ควรค่าแก่การศึกษาสำหรับคนรุ่นหลัง เพื่อยับยั้งต่อต้านไม่ให้เกิดสงครามขึ้นอีก
ทั้งนี้ อนุสรณ์สถาน ตวล สเลง ใช้งบประมาณในการก่อสร้างราว 90,000 ดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 2.97 ล้านบาท ) โดยได้รับความอนุเคราะห์ด้านงบประมาณจากรัฐบาลเยอรมนี โดยทั้งสองประเทศมุ่งหวังร่วมกันว่า อนุสรณ์สถานแห่งนี้นอกจากเป็นสัญลักษณ์รำลึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นแล้ว จะเป็นเครื่องเตือนใจให้แก่ชนรุ่นหลังว่า กัมพูชาจะไม่หวนกลับคืนสู่ "ยุคมืด" เช่นนั้นอีก ซึ่งทางรัฐบาลเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 07.00-11.30 น. และเวลา 14.00-17.00 น. โดยค่าเข้าชมประมาณ 2 ดอลลาร์สหรัฐ

วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ถนนสยาม

ถนนสยาม (ฝรั่งเศส: Rue de Siam) เดิมชื่อ ถนน Saint-Pierre (ถนนนักบุญปีเตอร์) เป็น ถนนที่ได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็นอนุสรณ์ เนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงส่งคณะทูต (นำโดย โกษาปาน) ไปเจริญสัมพันธไมตรีกับ พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ที่พระราชวังแวร์ซายโดยมีกำหนดการเข้าเฝ้าเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2229
คณะราชทูตสยามเดินทางมาโดยทางเรือ มาขึ้นบกที่ท่าเรือเมืองแบร็สต์นี้เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2229 ถือเป็นจุดแรกที่เข้าสู่ประเทศฝรั่งเศส และเดินทางผ่านถนนสายดังกล่าว ต่อมา ชาวเมืองจึงได้เปลี่ยนชื่อถนนเป็นถนนสยาม เพื่อระลึกถึงการเดินทางของคณะราชทูตครั้งนี้ โดยเริ่มใช้ชื่อดังกล่าวอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2354
ถนนตั้งอยู่ที่เมืองแบร็สต์ แคว้นเบรอตาญ ประเทศฝรั่งเศส นับเป็นถนนสายหลักของเมือง ในปัจจุบันสองข้างทางถนนยังเต็มไปด้วยป้ายชื่อ มีทัศนยภาพที่สวยงาม มีน้ำพุต่างระดับรวมถึงเกาะกลางถนน และเป็นเส้นทางไปสู่ศาลาว่าการเมือง
ถนนสยามนับได้ว่าเป็นถนนประวัติศาสตร์ในความสัมพันธ์ไทย-ฝรั่งเศส และถือว่าเป็นคู่กับถนน แบร็สต์ (ถนนเจริญกรุงซอย 36 หรือ ซอยโรงภาษี) ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยได้เสนอให้เพิ่มชื่อถนนแบร็สต์อีกชื่อหนึ่ง เนื่องจากสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสและทำเนียบเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสในกรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนถนนสายนี้ มีพิธีเพิ่มชื่อถนนเมื่อวันที่ 15 กุมภาพนธ์ พ.ศ. 2556 โดยเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย นายกเทศมนตรีเมืองแบร็สต์ และผู้แทนรัฐบาลไทยทั้งจากกระทรวงวัฒนธรรมและผู้บริหารกรุงเทพมหานคร เข้าร่วม
ถนนสยามในปี พ.ศ. 2548
ถนนสยามก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง

วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2561

16 เทพเจ้ากรีกโบราณ

เทพโอลิมปัส

เทพโอลิมปัส (The Olympians, Major gods) เป็นเทพที่อาศัยบนยอดเขาโอลิมปัส (Olympus) มีทั้งหมด 12 องค์
แต่ถ้านับอย่างถี่ถ้วนจะมีทั้งสิ้น 16 องค์ ดังนี้
1. ซุส (Zeus) เป็นราชาของบรรดาเทพเจ้าทั้งหลายและเหล่ามนุษย์บนโลก ซีอูสมีอาวุธเป็น Thunderbolt (สายฟ้า)
เทพซีอูสมีพี่น้องซึ่งเป็นเทพปกครองโลกร่วมกัน 5 องค์ ได้แก่ เทพโพไซดอน เทพีดีมิเทอร์ เทพีเฮร่า เทพฮาเดส และเทพีเฮสเตีย
gr4
2. โพไซดอน (Poseidon) เทพเจ้าแห่งท้องทะเล สัญลักษณ์ของพระองค์คือ “สามง่าม” หรือ “ตรีศูล”
ที่สามารถแหวกน้ำทะเลและทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้
gr5
3. ดิมิเทอร์ (Demeter) เทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์ เกษตรกรรม การเก็บเกี่ยว(องค์ซ้าย) ถ่ายจากภาพวาดที่พิพิธภัณฑ์
gr6
4. เฮรา (Hera) ราชินีแห่งสวรรค์ เป็นทั้งน้องสาวของซีอูสและเป็นภรรยาด้วย เฮร่าเป็นเทพีแห่งการให้กำเนิดทารก การสมรส และสตรี สัตว์ประจำพระองค์คือนกยูง
gr7
5. เฮสเทีย (Hestia) เทพีพรมจรรย์แห่งการครองเรือน เทพแห่งครอบครัว ในฐานะของเทพีผู้รักษาบ้าน พระนางเป็นผู้ที่สร้างบ้านขึ้นเป็นคนแรก วิหารของพระนางอยู่ที่กรุงโรม ซึ่งจะได้รับการบวงสรวงจากสาวพรหมจารี พระนางมีสัญลักษณ์เป็นไฟนิรันดร
gr8
6. เอรีส (Ares) เทพแห่งสงคราม บุตรของ ซูส กับ เฮร่า สัตว์ประจำพระองค์คือเหยี่ยวและสุนัขมังกรไฟ (บางตำราว่าเป็นนกแร้ง)
gr9
7. อพอลโล (Apollo) เทพเจ้าแห่งการทำนาย กีฬา การรักษาโรคภัย การดนตรี และ เป็นเทพแห่งพระอาทิตย์ เป็นบุตรแห่ง ซีอุส และ เทพีลีโต้ (Leto)
มีน้องสาวฝาแฝดชื่อ อาร์ทามิส (Artemis) อะพอลโล่มีต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์คือ ต้นลอเรล Laurel สัตว์ศักดิ์สิทธิ์คือนกกาเหว่าและห่าน
 เครื่องดนตรีประจำพระองค์คือพิณ วิหารศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์อยู่ที่เดลฟี่ Delphi
ซึ่งที่นั่นจะมีนักบวชคอยบอกคำทำนายของพระองค์ให้แก่ประชาชนที่มาสักการบูชา
gr10
8. อาร์เทมีส (Artemis) เทพีแห่งดวงจันทร์และการล่าสัตว์ เป็นบุตรีของซูสและ เทพีลีโต้ เป็นน้องสาวแฝดของอะพอลโล่
พระองค์เป็นเทพีพรหมจรรย์องค์หนึ่งใน 3 องค์ ภาพที่ผู้คนเห็นอยู่เสมอๆ คือพระองค์จะถือธนูและศร มีสุนัขติดตาม สวมกระโปรงสั้น
บางครั้งอาจเห็นเธออยู่บนรถศึกเทียมด้วยกวางขาว
gr12
9. เฮอร์มีส (Hermes) เทพแห่งการค้า การโจรกรรม และผู้ส่งสารของเหล่าทวยเทพ เป็นบุตรของ ซูส กับ มีอา
พระองค์มักจะปรากฏกายในลักษณะสวมหมวกขอบกว้าง สวมรองเท้ามีปีก ถือคทาที่มีงูพัน
gr11
10. อะธีนา (Athena) เทพีแห่งความเฉลียวฉลาด และศิลปศาสตร์ทุกแขนงของกรีกรวมถึงศิลปะการต่อสู้ด้วย
ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์คือต้นมะกอกเทพีอธีน่า เป็นผู้ที่มอบมะกอกให้กับมนุษย์เป็นองค์แรก ทำให้เมือง Athens
ได้ใช้ชื่อของพระองค์เป็นชื่อเมืองเพื่อเป็นเกียรติ
gr14
11. อโฟรไดท์ (Aphrodite) เทพีแห่งความรักและความงาม เป็นบุตรีของ ซูส กับ เทพีไดโอนี่ (บางตำราว่าเกิดจากฟองคลื่น)
สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของเธอได้แก่นกกระจอก นกนางแอ่น ห่าน และเต่า ส่วนดอกไม้และผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ของพระนางได้แก่กุหลาบ Myrtle
และแอปเปิล กล่าวกันว่าพระนางเป็นเทพีผู้คุ้มครองเหล่าโสเภณีด้วย
gr15
12. เฮฟเฟตัส (Hephaestus) เทพแห่งไฟ โลหะ และการช่าง เป็นบุตรของ ซูส กับ เฮร่า (บางตำราว่าเป็นบุตรของ Hera ผู้เดียว)
พระองค์เป็นเทพที่พิการและอัปลักษณ์
gr13
13. ไดโอไนซัส (Dionysus) เทพแห่งไวน์ การทำไวน์ และการเก็บเกี่ยวผลไม้ เป็นเทพองค์ล่าสุดที่ขึ้นไปอยู่บนโอลิมปัส
gr17
14. เพอร์เซโฟเน (Persephone) เทพีแห่งฤดูใบไม้ผลิ เป็นบุตรีแห่ง ซูส และ ดีมิเทอร์
gr18
15. อีรอส (Eros) กามเทพ รู้จักกันดีในภาษาโรมันว่า คิวปิด Cupid เป็นบุตรแห่งเทพีความรัก อะโฟร์ไดตี้
และ เทพการศึกสงคราม เอเรส
gr19
16. เฮเดส (Hades) เทพแห่งใต่พิภพยมโลก และเป็นเทพดูแลอัญมณีใต้ดิน
ชาวกรีกบูชาพระองค์ก่อนเสมอที่จะลงมือทำเหมืองแร่
gr20
ปัจจุบันได้จัดให้มีแค่ 12 องค์ เพราะ ตามตำราบางเล่มบอกไว้ว่าเทพรุ่นที่ 3 มีแค่ 12 องค์

วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2561

ตำนานวันวาเลนไทน์

    ประมาณ ค.ศ. ๓๐๐ เซนต์วาเลนไทน์เป็นบาทหลวงอยู่ที่โบสถ์ใกล้ ๆ กับกรุงโรม   ในรัชสมัยของพระเจ้าคลอดิอุสที่ ๒ ผู้ซึ่งมีประกาศิตห้ามการแต่งงาน เนื่องจากสมัยนั้น
กรุงโรมเป็นอาณาจักรที่รุ่งเรืองมาก จึงเป็นเป้าหมายการโจมตีจากชนเผ่าต่างๆ เช่น มองโกเลีย เติร์ก สลาฟ และโกลส์
จึงถูกเกณฑ์ทหารเพื่อปกป้องบ้านเมือง เมื่อกษัตริย์คลอดิอุสได้ขึ้นครองราชย์ เขารู้สึกว่าชายที่มีครอบครัวจะมีห่วงและมีอารมณ์อ่อนไหวเกินกว่าจะเป็นนายทหารที่ดี 
เพื่อให้ทหารทุกนายมีคุณภาพคลอดิอุสจึงสั่งห้ามการแต่งงาน
เพื่อไม่ให้เขาต้องถูกประหารชีวิต แต่วาเลนไทน์ปฏิเสธทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าจะต้องตาย
๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๖๙ วาเลนไทน์ถูกประหารชีวิต ก่อนหน้านั้นเล็กน้อยเขาได้เขียนจดหมายถึงลูกสาวผู้คุมและลงท้ายว่า "From your Valentine" ..
ใครจะคิดว่าวลีนี้จะคงอยู่มานับพันปี!
ที่เขียนด้วยลายมือในวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ โดยลงท้ายจดหมายด้วยชื่อของ " St.Valentine"

          ด้วยความกว้างใหญ่ของอาณาจักรจึงทำให้การป้องกันการโจมตีของข้าศึกเป็นไปด้วยความยากลำบาก ซ้ำสถานการณ์ภายในกรุงโรมเองก็ยังยุ่งเหยิง เหตุนี้ผู้ชาย
          บาทหลวงวาเลนไทน์เห็นอกเห็นใจในความเศร้าของคู่รักหนุ่มสาว เขาจึงแอบทำพิธีแต่งงานอย่างลับๆ ให้กับคู่บ่าวสาว เรื่องนี้รู้ถึงหูคลอดิอุส เขาจึงสั่งให้หา "เพื่อนของคู่รัก" และจับตัวมา   เมื่อได้พบกับ "เพื่อนของคู่รัก" กษัตริย์คลอดิอุสประทับใจในความสง่าผ่าเผยของบาทหลวงหนุ่ม จึงได้เสนอที่จะส่งตัวเขาไปยังศาสนจักรแห่งกรุงโรม
          ระหว่างที่รอการประหารอยู่ในคุก เขาได้รู้จักกับผู้คุมชื่อแอสทีเรียส ซึ่งมีลูกสาวตาบอด และขอให้เขาช่วยรักษาเธอ   เหมือนปาฏิหาริย์เธอสามารถมองเห็นได้ 
          ต่อมามีการยกย่องวาเลนไทน์ให้เป็นนักบุญหรือให้เป็น "เซนต์วานเลนไทน์" และมีเทศกาลวาเลนไทน์ที่หนุ่มชาวโรมันจะได้สารภาพรักกับหญิงสาว รวมทั้งการส่งการ์ด


วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

วันชาติฝรั่งเศส

🇫🇷 14 กรกฎาคมของทุกปีเป็น #วันชาติฝรั่งเศส  ธรรมดาแล้วจะไม่ได้นิยมพูดอวยพรซึ่งกันเเละกันเหมือนกับวันขึ้นปีใหม่ หรือเทศกาลคริสต์มาส
วันชาติฝรั่งเศส คนฝรั่งเศสจะนิยมดูการถ่ายทอดสดการเดินสวนสนามที่ถนนช็องเซลีเซ Champs-Élysées ในกรุงปารีส ต่อหน้าประธานาธิบดีฝรั่งเศส คนสำคัญของประเทศฝรั่งเศส พร้อมทั้งแขกบ้านเเขกเรือนจากต่างประเทศ
สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากส่งข้อความอวยพร หรือพูดอวยพรกันในวันนี้ ก็สามารถทำได้ ข้อความที่จะเห็นกันส่วนใหญ่ ก็ตามข้างล่างนี้
🎉 Bon 14 juillet
🎉 Joyeux 14 juillet
🎉 Bonne fête du 14 juillet
🎉 Heureux 14 juillet
🎉 Joyeuse fête du 14 juillet
สุขสันต์ 14 กรกฎาคม
🎉 Bonne fête nationale
🎉 Joyeuse fête nationale
สุขสันต์วันชาติ

วันจันทร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2561

ประวัติความเป็นมาสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประเทศไทย

ในระยะแรก คณะผู้แทนในประเทศสยามของรัฐบาลฝรั่งเศสเป็นแค่คณะกงสุล ซึ่งต่อมาในปีค.ศ. 1887 ได้เปลี่ยนสถานภาพเป็นคณะผู้แทนทางการทูตซึ่งไม่มีเอกอัครราชทูตเป็นผู้นำ (légation) จนกระทั่งปี ค.ศ. 1949 จึงได้มีการแต่งตั้งเอกอัครราชทูตคนแรกมาประจำประเทศไทย
รายนามเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยเรียงลำดับตามเวลาประจำตำแหน่งมีดังต่อไปนี้
  • นายการาชง (เข้ารับตำแหน่งปีค.ศ.2015)
  • นายวีโต (เข้ารับตำแหน่งปีค.ศ.2012)
  • นายเลอ ลีเดค (เข้ารับตำแหน่งปีค.ศ.2009)
  • นายบีลี่ (เข้ารับตำแหน่งปีค.ศ. 2007)
  • นายโอแบล็ง (เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2003)
  • นายแพร็ตทร์ (เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 1999)
  • นายกอสต์ (เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 1995)
  • นายรุมเมอลารดต์ (เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 1993)
  • นายแวงซ็ง (เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 1989)
  • นายบาสตูยล์ (เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 1986)
  • นายอาร์โนด์ (เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 1982)
  • นายซูลิเยร์ (เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 1978)
  • นายอองเดร (เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 1975)
  • นายต็อฟแฟง (เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 1972)
  • นายเลสโกต์ (เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 1968)
  • นายคลารัค (เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 เมษายน 1959)
  • นายเบรอัล (เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 1958)
  • นายอ็อฟฟรัว (เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 1954)
  • นายปอล-บงกูร์ (เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 1951)
  • นายมาร์ชาล (เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 1949)
ในปีค.ศ. 1857 กงสุลฝรั่งเศสได้เช่าสถานที่แห่งหนึ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยาจากรัฐบาลแห่งประเทศสยาม ต่อมาเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ค.ศ. 1875 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานที่ดินผืนนี้ให้แก่รัฐบาลฝรั่งเศส จนกระทั่งปัจจุบันสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยตั้งอยู่ ณ ที่นี้มาเป็นเวลากว่า 150 ปีแล้ว
ภาพถ่ายทำเนียบเอกอัครราชทูตในอดีต

ประวัติความเป็นมา Human Tower

ที่มา อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ตามประเพณี Muixernga ของAlgemesíในวาเลนเซียประเพณีของคาเทโลเนียในคาเทโลเนียเกิดขึ้นในบอล dels วาเลนเซีย (เชียน...